.,,,,,.๐๏*"``G Y P Z Y G I R L``"*๏๐.,,,,,. -->

วันพุธที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2560

📒 สายลมแห่งรักพัดมา : บทที่ 6 (2) Last Sample

ขอวางเนื้อหาเป็นตอนสุดท้ายแล้วค่ะ 
พบกับเรื่องราวเต็มๆ ได้ที่ eBook แต่งจบแล้วนะ โหลดเลย!!


บทที่ 6 (2)

          "โธ่!! .. ทำไมต้องให้ผมเรียนรู้เยอะขนาดนั้นเลยล่ะคะ คุณแม่.." ดราม่าใส่แม่เสร็จก็หันไปเหวี่ยงใส่ผู้เป็นพ่อทันที
          "เรื่องนี้เป็นความผิดคุณพ่อคนเดียวเลยนะครับ .. ทำไม ถึงขยันอย่างนี้ล่ะ ทีอีตอนผมกับคุณอิงค์ยังเด็ก ๆ ผมกับน้อง เคยขอให้คุณพ่อทำน้องใหม่มาเพิ่มให้จะได้มาไว้เป็นเพื่อนเล่น เพิ่มอีกสักคนสองคน คุณพ่อทำไมหามาเพิ่มให้ พวกเราไม่ได้ ล่ะครับ ดูเถอะ! พวกผมอยากจะได้น้องมากกว่าบริษัทฯ ที่ดูจะ เพิ่มสาขาแทบจะทุกปี ๆ นี่เสียอีก ..เห็นไหมนี่.. สุดท้าย..ภาระ เลยมาตกหนักที่ผมกับคุณอิงค์จมเลย"
          โดนลูกชายบ่น เพื่อพยายามเบี่ยงประเด็นได้อีกจนได้ (เชื้อไม่ทิ้งแถวเลยจริง ๆ) ร้อยตะวันอายจนหน้าแดงถึงใบหู ในขณะที่ภูผาหัวเราะร่าชอบอกชอบใจใหญ่ แถมยังตบหลัง ลูกชายดังป๊าบ ๆ 
          "คุณซันครับ..กรุณาอย่ามาเหวี่ยงใส่ผิดคนสิครับ.. โน้น เลย คุณแม่ตะวันของคุณโน้นเลยครับ .. ที่ไม่ค่อยให้ความ ร่วมมือ ทั้งที่พ่อก็พยายามอยู่ทุกครั้ง ๆ แล้วนั่นแหละ" 
"พี่ภูคะ!! นี่แหนะ!! ..ไม่ยอมให้ความร่วมมือหรอ?" 
          ร้อยตะวันเอื้อมมือจิกแขนสามี ภูผาเจ็บจนหน้าเหย 
          หันไปมองลูกสะใภ้ เห็นสีหน้าแดง ๆ ที่คงอายไม่ต่างกัน เท่าไร ผิดกับคุณซัน ลูกชายตัวร้ายนั่นล่ะที่ยืนทำหน้ามุ่ย ๆ แกมปุเลี่ยน ๆ แปลก ๆ อยู่คนเดียว
          ความที่เคยรู้ฤทธิ์เดชแปรธาตุ แปลงสาสน์ วิชามารกัน มาบ่อย ๆ คนเป็นแม่ชักจะเอะใจอะไรอยู่ตะหงิด ๆ
          "ไม่รู้ล่ะค่ะ! ภายในสัปดาห์นี้..คุณซันคงต้องเริ่มจับงาน ที่รีสอร์ทก่อนเลย เรียนรู้งานกับแม่และกับคุณอาเจนไปก่อน แล้วให้หนูฟร็องมาเป็นผู้ช่วยไปด้วยในตัว" 
          แอบสังเกตสีหน้าลูกชายตัวร้ายก็จับเค้าได้ เพราะเริ่มมี สีหน้าอึดอัด และถ้าหากเธอเดาไม่ผิด ..การอุบอิบปุ๊บปั๊บไปจด ทะเบียนเงียบ ๆ กันเองในครั้งนี้ 
          ต้องเป็นฝีมือคุณซัน ทั้งหมดนั่นแหละ 
          โถถถถถ.. คุณซันอ่ะ .. ช่างน่าเอ็นดู
          ไม่รู้หรือคะ? ว่าลูกไม้เล็กกะแผนตื้น ๆ แค่นี้ 
          'นายแม่ตะวันแห่งไร่ภูผาคอยตะวัน'
          .... เ ค้ า รู้ ทั น ย่ ะ ! ....
          ไม่ต้องสงสัย? นายหมอนั่นคงต้องไปข่มขู่ลูกไล่ให้คอย รับคำสั่งตกลงรับปากยอมจดทะเบียนง่าย ๆ ตามนิสัยชอบ ข่มขู่ชอบรังแกยัยลูกห่านน้อยมาแน่ ๆ 
          แต่เรื่องนี้ร้อยตะวันไม่สน 
          สนอย่างเดียว .. !! ..ไม่นานเดี๋ยวก็ได้รู้กัน.. ^^
          "อ้อ!! เรื่องนี้ อย่างไรก็ยังต้องขึ้นบัญชีถือเป็นความผิด คุณซัน .. อย่าคิดว่ามาประจบแล้วแม่จะหายโกรธง่าย ๆ อย่าง ทุกครั้งที่ผ่าน ๆ มานะคะ เพราะครั้งนี้ ... มัน 'ไม่.มี.ทาง'..." 
          นายแม่ตะวันประกาศสงครามชัดเจนมาก
          "แม่ตัดสินใจตรงนี้ดีกว่าว่า .. น่าจะให้คุณซันย้ายไปอยู่ ที่บ้านพัก ท้ายไร่ที่หนูฟร็องพักอยู่ปัจจุบันนั่นนะคะ .. แล้วนี่ก็ ไม่ใช่ประโยคคำถาม .. ดังนั้น .. คุณซันไม่จำเป็นต้องตอบ" 
          ดักคอลูกชายไว้เลย  
          และขนาดภูผายังเหวออออออ .. งงภรรยา
          คนต้นเรื่องหันไปสังเกตเห็นฟองดาวที่บัดนี้เริ่มทำสีหน้า อึกอัก ๆ ราวกับกำลังคิดหาจังหวะพูดอะไรบ้างสักอย่าง
          "เมียผมดูท่าว่าจะเหนื่อยแล้วค่ะคุณแม่" 
          เปลี่ยนเรื่องขึ้นกระทันหันมาซะงั้น เล่นเอาคนอยากพูด หน้าเหวอก่อนจะเปลี่ยนไปเป็นปุเลี่ยน ๆ หลบตาคนที่ยืนข่ม
          "หนูฟร็องคงอยากจะไปพักผ่อนแล้ว และผมเองก็อยาก จะเอาใจ 'เมียใหม่' สักหน่อย .. โอ๊ะ!!" ทำเป็น...แกล้งตกใจ 
          "ผมหมายถึงเมียที่เพิ่งตีทะเบียนกันมาหมาด ๆ น่ะค่ะ แล้วเดี๋ยวตอนค่ำ 'ผมกับเมีย' จะขอเข้ามาทานอาหารเย็นด้วย นะคะ .. จะได้ไหม?" 
          จู่ ๆ เขาจะมาอารมณ์เสียอะไรใครล่ะ!!
          แล้วทำไมต้องจ้องมาแขวะเธอด้วยเล่า? ... 
          ฟองดาวสงสัย เพราะฟังได้จากน้ำเสียงและคำพูดคำจา ที่ประชดประชันก็รู้ว่ากำลังถูก 'คุณชายนกยูง' เหวี่ยงเข้าให้ ได้อีกแล้วซิ (T_T)
          อย่าว่าแต่ฟองดาวเลย คนเป็นพ่อกับแม่ที่เลี้ยงกันมาแต่ อ้อนแต่ออกก็ยังงงงง .. แต่ดูเหมือนร้อยตะวันจะหาคำตอบได้ รวดเร็วกว่าใครพวก ... ^^
          "ไม่ดีกว่าค่ะ คุณซัน .. เพราะค่ำนี้พ่อกับแม่นัดว่าจะไป ทานค่ำกันที่ไร่โน้น" 
          ไร่โน้นของร้อยตะวันคือ ..ไร่ของเจนจิรา..ภรรยาสุดรัก ของกวินเขานั่นแหละ .. 
          แอบบีบมือสามีไว้สุดฤทธิ์ 
          โชคดีอยู่ที่ภูผาไหวตัวทันสัญญาณที่ภรรยาส่งมา
          "ใช่ครับ คุณเจนเค้าได้ไวน์ตัวใหม่มา..ก็เลยจะให้เราไป ช่วยลองชิมน่ะ" 
          อธิบายเสริมให้ภรรยา .. ทำเสียงให้ดูเคร่งขรึมด้วย
          "เห็นว่าอาจจะมีการคุยเรื่องสูตรลับกันด้วย ..เพราะงั้น.. พ่อก็คงไม่กล้าชวนคุณซันกับหนูฟร็องหรอกนะ ที่ขึ้นชื่อว่า สูตรลับ ... ก็คงยังปล่อยให้ใครรู้เยอะไม่ได้หรอก" ^^"
          โกหกลูกชายจะบาปไหมนี่? 
          งั้นก็ ... สมน้ำหน้ากันเลยล่ะสิ!! 
          งานนี้ลูกชายตัวแสบ โดนพ่อกับแม่กีดกันไม่ให้เข้าบ้าน สุดฤทธิ์เลยน่ะนี่
          โถ... นางรจนาซันไชน์เจ้าเอ๋ย ... เจ้าช่างน่าสงสาร
          หากแต่พอลับหลังสามีภรรยาคู่ใหม่ไปไม่เท่าไร ภูผาก็ หันมากอดรัดภรรยาสุดรักเล่นอย่างหมั่นเขี้ยวสุดฤทธิ์
          "ตอบมาค่ะ..คนดี ว่ามีแผนอะไร? ถึงได้กีดกันไม่ให้ลูก รจนาของเรามาทานข้าวด้วย เดือดร้อนนายกวินกันอีกล่ะค่ะ ที่ ต้องหาไวน์มาให้เราชิม .. พอเมาหัวทิ่ม เดี๋ยวก็คงต้องนอนเล่น อยู่ไร่โน้นกันอีกล่ะคราวนี้"
          "ก็..พี่ภู ไม่เห็นอาการของนายนกยูงปากแข็งตัวร้ายนั่น หรอกหรือ?" ร้อยตะวันถามกลับมาตาเป็นประกายวับ ๆ มอง ดูเหมือนเด็กจอมซนที่มักมีแผนสนุก ๆ อยู่ในใจเสมอ
          "ก็ขี้เหวี่ยงใส่หนูฟร็องอย่างมีความสุข เป็นปกติและเป็น กิจวัตรธรรมดาของเขาอยู่แล้วนี่คะ?"
          "ค่ะ แล้วพี่ภูรู้หรือเปล่าคะว่า 'นายนกยูงขี้โอ่' เขาเหวี่ยง 'ยัยลูกห่านขี้เหร่ ' ของเขานั่นด้วยเรื่องอะไร?"
          "นั่นสิคะ? พี่ก็ยังง ๆ นายหมอนั่นอยู่นี่"
          ภรรยายิ้มตอบมา..ตาแทบเป็นรูปสระอิกันเลยเชียว
          "พี่ภูไม่เห็นหรือว่านายนั่นน่ะ กำลังงอนเมียตัวเองอยู่"
          "งอน? งอนอะไร? พี่ไม่เห็นหนูฟร็องเขาทำอะไรลูกชาย สุดที่รักของตะวันสักนิดนะคะ มีแต่เจ้านกยูงนั่นนะแหละค่ะ ที่เอาแต่จ้องจะไล่จิก .. ไล่แขวะแม่ลูกห่านนั่นเบา ๆ ไปตาม 'อัตภาพ' อย่างที่เคยเป็นมา .. ตามประสานายน้อยจอมซึนของ เขาอยู่แล้วนี่" 
          ภูผาแกล้งถอยตัวออกมาตีหน้าฉนงใส่ภรรยา
          "บางทีนี่ .. พี่ยังเคยแอบสงสัยบ่อย ๆ เลยนะว่า .. ยัยหนู ฟร็อง เผลอไปแอบทำอะไรให้ตะวันแค้นใจมากขนาดไหนกัน? ..ตะวันถึงได้ส่งแม่ลูกห่านที่น่าสงสารนั่น ไปให้พ่อนกยูงขี้โอ่ ของเราไล่จิกกัด..รังแกได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงแบบนี้น่ะ?"
          "พี่ภูอ่ะ ใจร้าย o///o มาว่าตะวันแบบนี้ได้อย่างไรคะ?"
          ภรรยาตีหน้าเหย ที่โดนสามีใส่ร้าย
          "พี่ภูมองอย่างไรว่าหนูฟร็องโดนรังแก? ..ตะวันจำได้ว่า ตั้งแต่ครั้งคุณซัน ..เผลอเอาผลฝรั่งปาโดนหนูฟร็องจนหัวโน จากนั้นก็ไม่เคยเห็นคุณซันทำอะไรรุนแรงอีกเลยนี่คะ แต่ถ้า จิกกัด แขวะ เพราะอยากหาเรื่องคุยกับหนูฟร็องบ้าง .. ไรบ้าง บอกเลยว่า..โมเม้นท์มุ้งมิ้งแบบเนี้ย .. ตะวันเห็นเยอะมากกก!!"
          ภูผามองหน้าภรรยาแบบทึ่ง ๆ จนร้อยตะวันอดใจไม่ได้ ชะโงกหน้าไปจูบมุมปากเขาเล่น อย่างอดหมั้นเขี้ยวไว้ไม่ได้ ... ซะงั้น!!
          "มาว่าแต่คุณซันขี้เหวี่ยงเหมือนตะวัน ไม่รู้หรือไงกันคะ ว่านายนกยูงนั่นก็มีนิสัย 'ซึนเดเระ (ツンデレ)' ถอดแบบพี่ภู มาแป๊ะกว่าถอดแบบขี้เหวี่ยงมาจากตะวันอีกนะคะ .. "
          "อิตาฤๅษีปีศาจน้ำแข็ง .." คำท้ายทำปากบ่นอุบอิบ
นิยายแต่งจบแล้วค่ะ โหลด eBook ได้เลยนะคะ

คลิกไปอ่านนิยายทุกตอนได้ตรงนี้

คลิกไปอ่านนิยายทุกตอนได้ตรงนี้

ต้องการอ่านนิยายเล่มนี้เต็มเนื้อเรื่อง

📒 สายลมแห่งรักพัดมา : บทที่ 6 (1)

 จะขอวางเนื้อหาเพียงแค่ราว ๆ 40% - 50% เท่านั้น


บทที่ 6 (1)

          "นายแม่กับพ่อนายอย่ากังวลเรื่องนี้เลยค่ะ คือ เกี่ยวกับ เรื่องนี้ เมื่อคืนฟร็องได้คุยปรึกษาปู่กับย่าท่านแล้ว และพวกเรา ก็เห็นว่าพ่อนายกับนายแม่ ไม่น่าจะจำเป็นต้องมาเสียเงินทอง มากมายละลายไปพร้อม ๆ กับที่เสียเวลา..มาจัดการงานพิธี อะไรมาก ฟร็องรู้สึกจริง ๆ ค่ะว่ามันเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเวลา และที่ผ่าน ๆ มา ครอบครัวฟร็องเองก็ติดหนี้บุญคุณที่ไร่นี้ไว้ ตั้งมากมาย ..อีกอย่าง.. ฟร็องสมัครใจเอง เพราะไม่อยากเสีย เวลาเตรียมงานเตรียมการ แค่ลำพังงานที่ไร่กับรีสอร์ทช่วงนี้ก็ วุ่น ๆ ลากยาวเพราะแขกจองกันเข้ามาเต็ม แล้วที่ฟร็องไม่ชอบ ที่สุดก็คือ..การไปยืนฉีกยิ้มหวาน ๆ ถ่ายรูปสวย ๆ ที่ถ่ายเท่าไร สุดท้าย .. ก็มีคนไปแอบกระซิบถามเชิงนินทากันได้ว่า คนไหน เจ้าบ่าว? คนไหนเจ้าสาว? เพราะไอ้รูปที่แปะ ๆ อยู่หน้างานกับ ตัวจริง มองอย่างไร ๆ ก็ไม่เห็นจะเหมือนกันเลยนี่หว่า!!" (^^") 
          "แล้วอีกอย่างก็คือ .. เรื่องของคนแอบนินทากันลับหลัง ฟร็องว่างานแต่งงาน ..จะจัดหรือไม่จัด..สมัยนี้ มันก็มีค่าไม่ต่าง อะไรกันมากเลย เพราะสุดท้าย..เราก็ยังจะโดนเขาแอบเอาไป นินทาได้อยู่ดี เผลอ ๆ บางทีขณะที่มือก็กำลังตักอาหารใส่จาน ปากก็อาจจะกำลังเมาท์เมามันถึงเจ้าของงานฆ่าเวลาเพลิน ๆ ก็ ยังจะมี" 
          จบประโยคยาว ๆ ของสะใภ้ป้ายแดง ด้วยรอยยิ้มหวาน ประจบจนแก้มบุ๋ม เพราะพอได้ยินน้ำเสียงเครียด ๆ ของคุณ ภูผา ที่นาน ๆ จะได้ยินเขาทำเสียงเคร่งขรึมเช่นนั้น
          นั่นคงแปลได้ว่า .. เจ้าของเสียงคงเครียด หรือเคืองขุ่น อยู่มาก ซึ่งนั่น..ก็ยังไม่รวมน้ำเสียงหัวฟัดหัวเหวี่ยงของนายแม่ ตะวันนั่นอีกเล่า
          สะใภ้ใหม่ที่เห็นท่าว่าไม่จะดี จึงจำเป็นต้องออกหน้ามา อธิบายสุภาพ ๆ เพราะลำพัง ขืนให้คุณซันพูดกันเอง เผลอ ๆ เรื่องราวขุ่นเคืองก็อาจจะยิ่งบานปลายไปอีก เพราะนายน้อย ท่านนี้ ใคร ๆ ก็รู้นิสัยกันดีอยู่นี่ว่ามักจะชอบแกล้ง ชอบกวน ประสาทนายแม่เล่นนักเวลาเธอไม่ค่อยพอใจอะไรลูกชาย 
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเรื่องนั้น ๆ มันดันมีเธอเข้ามา เกี่ยวข้องอยู่ด้วยแล้วล่ะก็ นายน้อยตัวร้ายก็จะไม่ลังเลที่ยิ่งยั่ว โมโหมารดาหนักกันเข้าไปใหญ่เลยเชียว
          ร้อยยิ้ม ที่ยิ้มจนแก้มบุ๋มเพราะลักยิ้มที่มีอยู่ทั้งสองข้าง กับตายิบหยีทำให้ร้อยตะวันเกือบจะลืมอารมณ์โกรธที่ลูกชาย ก่อไว้ก่อนหน้าเสียแทบจะสนิท เพราะถึงอย่างไรก็เอ็นดูกันมา ตั้งแต่ยังเล็กยังน้อย แถมมองอย่างไร ..ฟองดาวก็ไม่เคยนอกลู่ นอกทางให้ผิดหวัง .. แม้ขนาดที่ร้อยตะวันไม่ได้เกี่ยวพันอะไร ใด ๆ ทางสายเลือดแม้เพียงสักนิด เธอก็ยังอดรู้สึกภูมิใจและ ชื่นใจในความเป็นเด็กที่กตัญญู มีมานะอดทนและใฝ่ดี แทน ผู้เป็นพ่อแม่ที่ล่วงลับไปแล้วของเด็กสาวคนนี้ไม่ได้เลย
          "อย่าไปคิดว่าไร่ภูผาเป็นหนี้บุญคุณใครเลยจ้ะหนูฟร็อง ..มันจะทำให้พวกเราบางคนเหลิงรู้ไหม? (แขวะไปยังลูกชาย ตัวดี) เพราะอันที่จริงพวกเราที่นี่ .. ก็อยู่ร่วมกันด้วยการพึ่งพา อาศัยซึ่งกันและกันอยู่ต่างหาก ไร่นี้ รีสอร์ทนี้ รวมถึงบริษัทฯ ในเครืออื่น ๆ ด้วย .. ที่พวกเราก่อตั้งมาเป็นองค์กรใหญ่โตได้ ทุกวันนี้ก็เพราะมีคนงาน เหล่าพนักงาน ผู้จัดการ ผู้บริหาร นายทุน หุ้นส่วน ที่มาร่วมด้วยช่วยกันทำหน้าที่ของแต่ละคน และของแต่ละฝ่ายต่างหาก เพราะหากขาดฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไป ..เราก็จะไม่มีวัน ๆ นี้กันหรอก เพราะฉะนั้น อย่าได้คิดถือเป็น บุญเป็นคุณกันเลยจ้ะ เราอยู่กันอย่างญาติพี่น้อง อย่างเพื่อน ร่วมโลกกันดีกว่าเน๊อะ" 
          แตะมือเด็กสาวอ่อนวัยให้รู้ถึงความจริงใจ
          "และถึงแม้ว่าแม่จะไม่ค่อยพอใจ ..ที่คุณซันกับหนูฟร็อง จะตัดสินใจแอบไปงุบงิบจดทะเบียนกันเงียบ ๆ แต่ก็ช่างเถอะ แม่ไม่อยากบังคับใจอะไรมาก แต่แค่นี้ก็ทำให้เห็นแล้วว่า .. แม่ เลือกลูกสะใภ้ได้ไม่ผิดหวังหรอกค่ะ เห็นไหมคะคุณซัน? ที่ยัง ไม่ทันไร..ก็รีบออกมาอธิบาย ปกป้องสามีตัวร้ายกันแล้วนะนี่"
          โดนร้อยตะวันหยอกเย้าเอาบ้าง ถึงกับทำเอาสาวน้อย สะใภ้ใหม่อายจนหน้าแดงก่ำ .. 
          แม่สามีที่เห่อลูกสะใภ้จึงนึกเอ็นดูยิ่งเข้าไปใหญ่
          นายอาทิตย์ตัวร้ายก็ยังทำท่าเฉยเมย แต่แอบ..อดลอบ ปรายหางตาไปยังภรรยาหมาด ๆ แว่บหนึ่งไม่ได้อยู่ดี
          "ปกป้อง กับ ขี้ประจบ .. มันก็มีแค่เส้นบาง ๆ ขวางอยู่ เท่านั้นนะคะคุณแม่"
          "เอ๊ะ!! คุณซันคะ! ทำไมจึงชอบขว้างดราม่า..ปาพล๊อต ขี้อิจฉาใส่น้องทุกทีเลยคะ?" 
          คนเป็นมารดาใช้วิชาดราม่า(ขั้นกว่า) ดุลูกชายเสียงขุ่น
          "โธ่.. โอ๋ ๆ คุณแม่คะ มาค่ะ ..เป่า เพี้ยง!!.. หายงอน หายงอน" 
          อาทิตย์เดินเข้าไปดึงร่างของมารดา .. แย่งออกมาจาก อ้อมกอดบิดาหน้าตาเฉย .. ประจบ (ของแท้) เมื่อชักจะรู้แกว ว่าคุณแม่เริ่มออกอาการดราม่า 'งอน' คงเพราะเห่อลูกสะใภ้ ใหม่ด้วย และคงประกอบกับที่เขายังแอบดื้อนิด ๆ แถมยังเบี่ยง ประเด็นไปหลายอย่างที่ไม่ตรงไปตามใจของมารดา ก็จึงเป็น เรื่องธรรมดาที่ร้อยตะวันอาจจะมีอาการไม่พอใจได้ง่าย ๆ 
          (แล้วทีหลัง อย่ามาถามนะว่า ..ได้ลูกชายขี้เหวี่ยง  ขี้วีน ขี้งอน ขี้หวงตัว และจอมดราม่ามาจากใคร ในเมื่อสำเนาถูก ต้องชัดแป๊ะซะขนาดนี้)
          "คุณซันตามใจคุณแม่จะตาย คุณแม่ให้แต่งงานคุณซัน ก็แต่ง คุณแม่จะมาว่าคุณซันขี้อิจฉา ไม่ตามใจได้อย่างไงคะ? โดนกล่าวหาโดยไม่มีหลักฐาน .. เดี๋ยวคุณซันก็ปรับเป็นหอม ฟอด ๆ" นายตัวร้าย 'รู้หลบเป็นปีก..รู้หลีกเป็นหาง'
          ว่าแล้วเจ้าตัวก็กดจมูกหอมแก้มคุณแม่คนสวยรัว ๆ
          "น้อย ๆ หน่อยครับคุณซัน นั่นคุณกำลังจีบเมียผมอยู่ ... นะครับ" ภูผาเกิดอาการหมั่นไส้นายลูกชายสุดฤทธิ์
          "โธ่ คุณพ่อก็ให้โอกาสแม่ลูกเค้าฟรุ้งฟริ้งกันบ้างสิครับ ผมถูกคุณพ่อเฉดหัวไปเรียนนอกตั้งหลายปีเพิ่งจะกลับมาบ้าน  โอกาสทำคะแนนก็เลยน้อย .. เพราะพูดจาหาเหตุผลมาประจบ เอาใจใครก็ไม่เก่งนี่ครับ" 
          แขวะเมียป้ายแดงให้ฟังกันชัด ๆ .. 
          "อีกอย่าง .. เห็นคุณแม่รักแค่คุณพ่ออยู่คนเดียว ผมกับ คุณอิงค์ก็เคย ๆ มีแอบหลบไปนินทาแบบน้อยอกน้อยใจกัน อยู่เบา ๆ บ่อย ๆ นะครับ"
          อาทิตย์หันไปแกล้งเคืองใส่ภูผา ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้ว จุด มุ่งหมายของนายตัวร้ายนั้น..ต้องการตวัดสายตาขุ่น ๆ ไปยัง คนที่นั่งเงียบที่สุด ตัวเล็กที่สุด จนดูเหมือนจะพยายามทำตัว ให้หายไปกับอากาศให้ได้นั่นต่างหาก
          ช่างทำตัวได้จืดจางจริง ๆ เลยนะคะ แม่คู้นนนนน.... 
          คนจืดจางขยับตัวแบบ 'อึดอัด' เพราะรู้ตัวแน่ล่ะว่าโดน ขวิด เอ้ย!! .. โดนแขวะ
          "นี่ไงล่ะ!! .. ตะกี้ใส่ความว่าเมียตัวเองขี้ประจบ คุณซัน นั่นแหละ .. ตัวขี้ประจบขั้นกว่าเลยนะนี่!!" 
          ร้อยตะวันตีแขนลูกชายเพี๊ยะ 
          แต่รู้เลยว่าโดนลูกอ้อนของลูกชาย มารดาก็ออกอาการ ..หมดทางจะเคือง..
          เฮ้อ! ..แล้วก็เคยแอบวิ้ง ๆ กันกับคุณภูผาสามีที่รักนะว่า 'เพราะพี่ภูตามใจลูกมากไป เห็นไหมคะ คุณซันก็เลยนิสัยเสีย' ทั้ง ๆ ที่ร้อยตะวันเองนั้นแหละน่ะ ที่บางทีเวลาเจออาทิตย์หรือ อิงจันทร์มาคลอเคลียในเวลาโกรธ ๆ เคือง ๆ เมื่อไร ... 
          จากแม่เสือจอมเหวี่ยง ก็กลายเป็น 'แม่ไก่ใจอ่อน' ขึ้นมา ทันที
          บางที ภูผาก็ยังเคยอ้อมแอ้ม..แกล้ง ๆ สะกิดภรรยา
          "ตะวันคะ เมื่อกี้จำได้ไหม ว่า..กำลังโกรธอะไรลูกอยู่?"
          "เอ๊ะ! พี่ภูอ่ะ!! จะมายุให้แม่ลูกเค้าเหวี่ยงกันทำไมคะ? .. นู้นค่ะ เชิญพี่ภูไปแซตปรับทุกข์กับนายกวินได้ที่โน้นเลยค่ะ!!" 
          "ไปสิ..ชิ่ว ๆ" พร้อมทั้งทำท่าปัดไม้ปัดมือไล่ให้ไปเล่นที่ อื่นด้วย ... ค่ะ!! ( _ _)"
          "อ้อ!.. จะแซตจีบกันก็ได้แต่..ต้องให้ตะวันเห็นข้อความ ทั้งหมดด้วยค่ะ แล้วอย่าให้รู้นะ ว่าไปแอบมุ้งมิ้งคุยฟรุ้งฟริ้งกัน สองต่อสอง แอบนินทาภรรยากันน่ะ เพราะต่อให้กวินแต่งงาน มีภรรยามีลูกโตเป็นสาวแล้วก็ตาม แต่ตะวันก็ยังจะหึงส์ตลอด เวย์เลย .. รู้เรื่องนี้ดีอยู่แก่ใจใช่ไหมคะ!!" 
          มีการปรายตา .. แกล้งขว้างค้อนชุบน้ำผึ้งมาให้ด้วยนะ
          "อืมมมม..จิ้น 'ยาโอย' ใส่พี่กับกวินไม่เลิกแบบนี้.. แล้ว พอถึงคืนนี้ 'อย่าโอ้ย' ใส่พี่นะคะ .. คุณหนูตะวัน!" 
          สามีพูดมา .. สีหน้าเฉย ๆ .. แต่คนฟังหน้าแดงหูแดงก่ำ
          หาเรื่องเข้าตัวอีกจนได้เลยแท้ ๆ นะคะ!! 
          นั้นแหละ!! ผู้ภรรยาจึงจะรีบ..วกกลับเข้าประเด็นเก่าเอา ตัวรอดกันต่อไป
          "แล้ว.. คุณซันก็อย่าคิดว่า แอบอุ๊บอิ๊บไปจดทะเบียนกัน แค่เงียบ ๆ แล้วแม่จะพอใจรีบยกโทษให้ เพราะถึงอย่างไร แม่ ก็ไม่ไว้ใจคุณซัน ที่ชอบเล่นแร่แปรธาตุกับแม่ตลอดเวลาอย่าง นี้นะ" บ่นใส่ลูกชายพอเป็นพิธี
          "แต่งกันแล้ว ต่อไปก็ไปเริ่มเรียนรู้การอยู่เป็นครอบครัว ต้องหัดช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณซัน ที่จะต้องเป็นหัวหน้าครอบครัวและบริษัทฯเราต่อไปใน อนาคต เพราะงั้น .. ลูกทั้งสองจึงต้องมาเรียนรู้เรื่องบริหารงาน ในเครือโรงแรมกับรีสอร์ทให้ได้ด้วย เพราะต่อไป พ่อ แม่ และ คุณตาก็จะเริ่มขยายสาขา .. เพิ่มไปยังจังหวัดอื่น ๆ อีก .. ไหน จะยังโรงงานผลิตไวน์อีก ที่อันนี้คุณซันก็ต้องเรียนรู้ไว้ เพราะ พอน้อง 'ต้นฝัน' ลูกสาวสุดรักของคุณอากวินที่ก็จะกลับมา จากฝรั่งเศสไล่ ๆ กับคุณอิงค์ คุณซันกับหนูฟร็องจะได้ช่วย แม่กับคุณอาเจนสอนสองคนนั้นด้วยกัน"
นิยายแต่งจบแล้วค่ะ โหลด eBook ได้เลยนะคะ

คลิกไปอ่านนิยายทุกตอนได้ตรงนี้

คลิกไปอ่านนิยายทุกตอนได้ตรงนี้

ต้องการอ่านนิยายเล่มนี้เต็มเนื้อเรื่อง

📒 สายลมแห่งรักพัดมา : บทที่ 5 (2)

 จะขอวางเนื้อหาเพียงแค่ราว ๆ 40% - 50% เท่านั้น


บทที่ 5 (2)

         เขาจ้องหน้า ฟองดาวพยักรับอีกด้วยใบหน้า..เรียบ..นิ่ง
          "และจะไม่มีพิธีแต่งงานหรือการจัดงานใด ๆ ทั้งสิ้นนะ เพราะฉันไม่ชอบงานเอิกเกริก และก็ไม่อยากให้แฟนเศรษฐีลูก สาวนักการเมืองของฉันเขาต้องมารับรู้เรื่องบ้า ๆ นี้ และถ้าข้อ นี้เธอตกลง ... พรุ่งนี้เราก็ไปจดทะเบียนกันหลังเซ็นสัญญา"
          เขายิ้มชั่วร้าย .. รอเธอพยักหน้า 
          ฟองดาวทำท่าจะคิดไตร่ตรองดูอีกสักรอบ แต่พอปะทะ เข้ากับสายตาเหยียด ๆ ของเขา ก็เกรงว่าจะโดนเหมาจำหน่าย เอาได้อีกสิว่าเธอกำลังคำนวนลูกคิดขาดทุน กำไร อะไรกับ การแต่งงานของเขาอยู่ 
          แค่สบตาเธอก็จะกลัวเขาหงอจะตายไปแล้ว ยังจะมีหน้า ไปกล้าคิดค้ากำไรอะไรกับเขาได้ล่ะ?!? ... 
          สุดท้ายจึงต้องกล้ำกลืนฝืนพยักหน้าไปให้
          "สุดท้าย ... ข้อนี้สำคัญที่สุด" รอยยิ้มชั่วร้ายกว่ากดลึก
          "ห้าม.เธอ.มา.แตะต้อง.โดนตัว.ฉัน.เป็น.อันขาด!!" 
          สิ้นเสียงเน้น ๆ ถ้อยทุกคำ ... 
          คราวนี้ ..ฟองดาวพยักหน้ารับแทบจะทันที เพราะมันถือ ว่าเป็นข้อร่วมที่เธอกำลังคิดจะเรียกร้องจากเขาอยู่พอดีสิ!!
          "ค่ะ .. ได้"
          "ตกลงให้ไปตามข้อแม้ของคุณทุกอย่างค่ะ ฟร็องจะไม่ แตะต้องถูกตัวคุณแม้แต่นิดเดียวเลย ..สัญญา.."
          คราวนี้เสียงใส ๆ กลับมาอาการลังเล..ก่อนตัดสินใจรีบ พูดรวดเดียวเลยว่า
          "แต่..คุณซัน ก็ต้องสัญญากลับมาด้วยนะคะ..ว่า ห้าม! มาแตะต้องโดนตัวฟร็องด้วยเหมือนกัน!!" 
          อ้อมแอ้มอุบอิบไม่กล้าขอดัง กลัวว่าเดี๋ยวเขาจะหาอะไร ขว้างใส่ศีรษะมาให้ เธอก็แค่อยากมีหลักประกันปกป้องตัวเอง ไว้ก่อนเท่านั้น แต่การจะพูดจาอะไรกับเขา มันดูช่างไม่ใช่เรื่อง ง่าย ๆ เลย เพราะคนฟังมักพร้อมจะเข้าใจเธอผิดไปในอีกทาง ซึ่งเป็นทางตรงกันข้ามกับเธอได้อยู่ดี
          "โถ๊ะ!! ที่รักจ๋า" 
          เขาแกล้งลากเสียงหวาน แต่ไปไม่ถึงแววตา และมันก็ทำ เอาฟองดาวต้องขยับตัวอึดอัดอยู่ยุกยิก 
          "แล้ว .. มันมีความจำเป็นอะไรที่ฉันจะต้องไปสัญญากับ เธอแบบนั้น?" คนฟังอ้าปากหวอ 
          "คิดว่าชั้นพิศวาสเธอนักเหร๊าะ?" ทิ้งหางตาหมิ่นเหยียด
          "ฝันไปเถอะ!! เธอคิดว่าตัวเองเป็นใคร? ฉันแค่แต่งงาน กับเธอก็เพราะมีความจำเป็นบางอย่าง ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร กับเธอสักนิดเลย ดีซะอีก อย่างน้อย ๆ เธอก็ยังพอมีประโยชน์ กับฉันในเรื่องนี้อยู่บ้าง .. นิดหน่อย"         
          รอยยิ้มน่าเกลียด ๆ ประดับที่มุมปากหยักสวยแต่ยะโส 
          แล้วตกลงเอาไงแน่?
          เรื่องนี้มันเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับเธอหรือ? 
          แล้วถ้าไม่เกี่ยว .. ทำไมเธอยังต้องแต่งงานกับเขาด้วย?
          ไม่กล้าถามเขาหรอก ...
          ทำได้แค่มองกลับเขาไป .. ตาแป๋ว ๆ
          "อีกอย่างฉันขอ ..ห้าม! เธอเรียกแทนตัวเองว่าฟร็องอีก ได้ยินทีไร .. มันรู้สึกสะอิดสะเอียน!!" 
          คำสุดท้ายก็แทบจะตะคอกใส่หน้า 
          ก็ไม่รู้ว่าจะ โมโห โกรธ เกลียด อะไรเธอกันนักกันหนา         
          แม้ขนาดแค่ชื่อ .. ก็ยังไม่อยากจะได้ยินกันเขียวหรือ?        
          ฟองดาวถึงกับแอบน้ำตาตกในกันเลยทีเดียวเชียว
          "งั้น..ก็เป็นอันว่า ดิฉันตกลงตามข้อแม้ของคุณทุกอย่าง ก็แล้วกันค่ะ"
          ฟองดาวเบื่อจะขัดใจเขา เพราะรู้ว่าเปล่าประโยชน์ 
          อีกอย่าง .. เธอก็ไม่ควรกลัวอะไรในเรื่องนั่นเลยนิ!! ... 
          เขาแสดงออกโจ่งแจ้งจะตายไป ว่ารังเกียจเธอจนจะดิ้น ตายไปอยู่แล้ว ก็คงจะไม่มาแตะเธอให้มือเขาเน่าเอาได้หรอก! แฟนเศรษฐีเขาก็มี..ย้ำมาปากจะฉีก แต่งงานกัน เดี๋ยวเขาคงมี ข้ออ้างเข้ากับนายแม่เข้ากรุงเทพฯไปอยู่กับแฟนเขาเองนั่นล่ะ
          ส่วนเธอ .. ก็อยู่สงบ ๆ ของเธอเหมือนเดิมไปสิ
          ".........."
          "ยังมีอะไรที่ยังต้องตกลงกันอีกหรือเปล่าคะ?"
          ถามขึ้นอีก .. หลังจากที่เห็นเขาเงียบไปอยู่นาน แถมยัง ไม่มีทีท่าว่าจะขยับ
          "เธออยากให้ฉันตกลงอะไร?"
          "เอ้า!! .. เอ่อ? ...คือ...ดิฉันเห็นคุณเงียบไป"
          "ทำไม .. กำลังคิดจะไล่ฉันออกไปจากตรงนี้หรือ?" 
          คิ้วเข้มหนาเลิกสูงเป็นเชิงหาเรื่อง "ลืมอะไรไปหรือเปล่า ที่นี่มันบ้านของฉัน .. หนึ่งในอาณาเขตบริเวณที่เป็นสมบัติของ ฉัน ฉะนั้น ฉันจะยืนจะหยุดอยู่ตรงไหน .. มันก็เรื่องของฉัน!!"
          "อ่อ ..เอ่อ.. ค่ะ งั้นถ้าคุณอยากจะยืนอยู่ตรงนี้ และหาก หมดธุระแล้ว .. ดิฉันก็ขอตัวก็แล้วกันค่ะ" 
          คนฟังจับได้ชัดเจนว่า คราวนี้ประโยคท้าย ๆ มีร่องรอย ประชดแฝงอยู่ .. แต่ก็ยังแกล้งทำเป็นเฉยเสีย 
          มองตามร่างบางที่หันกลับ ก้าวเดินไปยังประตูทางออก
          พอมือแตะถึงลูกบิด ร่างสูงก็ก้าวโครม ๆ พรวดตามออก มาจนฟองดาวแทบจะเบี่ยงตัวหลบให้ไม่ทัน 
          น้ำตาจะร่วงแหล่ ไม่ร่วงแหล่ แต่พอรู้ว้าเขามาใกล้ ก็รีบ กระพริบตาถี่ ๆ ไล่มันให้หนีไป
          "เตรียมรองเท้าสิ!! .. ยืนบื้ออะไรอยู่" คิ้มเข้ม ตาขุ่น
          ฟองดาวยังก้มหน้า แต่ภาพจำสมัยยังเด็กวาบผ่าน .. 
          สมัยที่นายน้อยชอบมาวางอำนาจใส่ ตอนขัดใจที่เธอมัว แต่คุยธุระเรื่องรายงานกลุ่ม จนไม่ทันวิ่งไปซื้ออาหารกลางวัน ให้คนใจร้อนต้องเดินมาตาม .. แล้วเขาก็ทำโทษให้เธอต้องขัด รองเท้ากับสวมรองเท้าให้ในวันนั้น
          "งี่เง่า!!" โดนเขาหงุดหงิดใส่ได้ไม่เลิก
          "พรุ่งนี้แปดโมงครึ่ง ฉันจะมารับไปอำเภอ"
          "ค่ะ.."
          ตอบรับคำไปแค่นั้นเรื่องมันจะได้จบ ๆ แล้วเขาจะได้รีบ กลับ ๆ ออกไป ... และปล่อยทิ้งเธอไว้ให้อยู่เงียบ ๆ คนเดียว เสียที!!

          "หมายความว่าอย่างไรคุณซัน ที่ว่าไปจดทะเบียนกันมา แล้ว แต่จะไม่ยอมให้จัดงาน?"
          ร้อยตะวันเงยหน้ามาบึ้งตึง หลังจากที่ได้ก้มเช็คชื่อเช็ค ลายเซ็นในใบทะเบียนสมรสของบุตรชายคนโปรดเรียบร้อย
          "ถึงหนูฟร็องจะเสียพ่อเสียแม่ไปแต่เขายังมีปู่มีย่านะคะ คุณซันทำอย่างนี้ เท่ากับทางเราไม่ได้ให้เกียรติอีกฝ่ายเขา ชัดเจนกันเลยทีเดียว" 
          ยิ่งพูดยิ่งเอะอะอารมณ์เสียหัวฟัดหัวเหวี่ยงลูกชาย จน ภูผาต้องรีบดึงตัวภรรยาเข้ามากอดปลอบใจ เพราะท่าทางเจ้า 'คุณซัน' นายลูกชายตัวแสบของเขาที่ยืนกอดอกเฉยเมย ไม่ แสดงท่าทีเป็นทุกข์เป็นร้อนใจ .. กับอาการร้อนเป็นไฟของผู้ เป็นมารดาเลยสักนิด ผิดกันกับสาวน้อยวัยอ่อนกว่าลูกชาย ที่ ก่อนหน้าเพิ่งจะเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการดูแลในส่วนที่พักอาศัย ที่ฝรั่งเรียกว่าเรสสิเดนท์เมเนเจอร์หรือที่เรียกกันสั้น ๆ กันว่า RM มาเมื่อไม่นานนี้เอง .. 
          ภาพเด็กสาววัยยี่สิบต้น ๆ ที่ดูหน้าตาน่ารัก อ่อนกว่าวัย ซึ่งปกติธรรมดาจะดูคล่องแคล่ว ร่าเริง และมักจะดูทะมัดทะ แมงอยู่ในชุดฟร์อมแบบคาวเกิร์ล ผมสีน้ำตาลเข้มยาวตรง ถูก รวบตึง จึงขับเน้นใบหน้ารูปไข่สวยหวานตามวัย .. 
          แต่บัดนี้ สาวน้อยสดใสคนที่ว่า .. กลับต้องมานั่งหน้าตา เจี๋ยมเจี๋ยม .. พร้อมใบทะเบียนสมรสที่วางอยู่ตรงหน้า 
          ..ใบทะเบียนที่หนุ่มสาวทั้งคู่อ้างว่า .. เพิ่งจะไปจดกันมา เมื่อเช้า แล้วทำเอาผู้เป็นภรรยาจอมเหวี่ยง ของเขาโมโหเป็น ไฟอยู่นี่ไง
          ภูผามองเหตุการณ์แล้วให้กลุ้มใจกว่า .. เพราะจะว่าไป เขาก็ไม่ค่อยจะเห็นด้วยกับลูกชายนะ.. ที่ตัดสินใจทำอย่างนี้ ในเมื่อมันมองดูก็เหมือนมันจะหมิ่นเกียรติลูกสะใภ้หมาด ๆ ที่ เห็นกันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยคนนี้มากเอาการกันเลยเชียว
          "จริง ๆ คุณซันทำอย่างนี้พ่อก็ไม่เห็นด้วยเลยนะครับ เพราะคุณปัญจ์ ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นหัวหน้าคนงานเก่าแก่ .. แกอยู่ ช่วยพ่อบุกเบิกไร่มาตั้งแต่เริ่มเดิมทีแล้ว .. หากพ่อไม่ได้ปู่ของ หนูฟร็องช่วยดูแลไร่ให้ พ่อว่า พ่อก็จะไม่มีวันที่จะเห็นไร่ตัวเอง ขยับขยายใหญ่โตมาได้ด้วยลำพังตัวคนเดียว การที่คุณซันทำ อย่างนี้ จะให้พ่อไปมองคุณปัญจ์ได้สนิทใจได้หรือ"
          ภูผากล่าวเสียงเคร่งขรึม จนฟองดาวต้องขยับตัวอย่าง อึดอัดใจอีกครั้ง .. เพราะมันคงต้องถือเป็นเรื่องใหญ่แล้วล่ะ 
          ก็ขนาดคุณภูผา .. เจ้านายใหญ่ผู้ที่ใจเย็นที่สุด สุขุม ที่สุดในครอบครัว ยังกล่าวในเชิงตำหนิลูกชายได้ขนาดนี้
นิยายแต่งจบแล้วค่ะ โหลด eBook ได้เลยนะคะ

คลิกไปอ่านนิยายทุกตอนได้ตรงนี้

คลิกไปอ่านนิยายทุกตอนได้ตรงนี้

ต้องการอ่านนิยายเล่มนี้เต็มเนื้อเรื่อง

📒 สายลมแห่งรักพัดมา : บทที่ 6 (2) Last Sample

ขอวางเนื้อหาเป็นตอนสุดท้ายแล้วค่ะ  พบกับเรื่องราวเต็มๆ ได้ที่ eBook แต่งจบแล้วนะ โหลดเลย!! บทที่ 6 (2)           "โธ่!! .....