.,,,,,.๐๏*"``G Y P Z Y G I R L``"*๏๐.,,,,,. -->

วันพุธที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2560

📒 สายลมแห่งรักพัดมา : บทที่ 6 (1)

 จะขอวางเนื้อหาเพียงแค่ราว ๆ 40% - 50% เท่านั้น


บทที่ 6 (1)

          "นายแม่กับพ่อนายอย่ากังวลเรื่องนี้เลยค่ะ คือ เกี่ยวกับ เรื่องนี้ เมื่อคืนฟร็องได้คุยปรึกษาปู่กับย่าท่านแล้ว และพวกเรา ก็เห็นว่าพ่อนายกับนายแม่ ไม่น่าจะจำเป็นต้องมาเสียเงินทอง มากมายละลายไปพร้อม ๆ กับที่เสียเวลา..มาจัดการงานพิธี อะไรมาก ฟร็องรู้สึกจริง ๆ ค่ะว่ามันเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเวลา และที่ผ่าน ๆ มา ครอบครัวฟร็องเองก็ติดหนี้บุญคุณที่ไร่นี้ไว้ ตั้งมากมาย ..อีกอย่าง.. ฟร็องสมัครใจเอง เพราะไม่อยากเสีย เวลาเตรียมงานเตรียมการ แค่ลำพังงานที่ไร่กับรีสอร์ทช่วงนี้ก็ วุ่น ๆ ลากยาวเพราะแขกจองกันเข้ามาเต็ม แล้วที่ฟร็องไม่ชอบ ที่สุดก็คือ..การไปยืนฉีกยิ้มหวาน ๆ ถ่ายรูปสวย ๆ ที่ถ่ายเท่าไร สุดท้าย .. ก็มีคนไปแอบกระซิบถามเชิงนินทากันได้ว่า คนไหน เจ้าบ่าว? คนไหนเจ้าสาว? เพราะไอ้รูปที่แปะ ๆ อยู่หน้างานกับ ตัวจริง มองอย่างไร ๆ ก็ไม่เห็นจะเหมือนกันเลยนี่หว่า!!" (^^") 
          "แล้วอีกอย่างก็คือ .. เรื่องของคนแอบนินทากันลับหลัง ฟร็องว่างานแต่งงาน ..จะจัดหรือไม่จัด..สมัยนี้ มันก็มีค่าไม่ต่าง อะไรกันมากเลย เพราะสุดท้าย..เราก็ยังจะโดนเขาแอบเอาไป นินทาได้อยู่ดี เผลอ ๆ บางทีขณะที่มือก็กำลังตักอาหารใส่จาน ปากก็อาจจะกำลังเมาท์เมามันถึงเจ้าของงานฆ่าเวลาเพลิน ๆ ก็ ยังจะมี" 
          จบประโยคยาว ๆ ของสะใภ้ป้ายแดง ด้วยรอยยิ้มหวาน ประจบจนแก้มบุ๋ม เพราะพอได้ยินน้ำเสียงเครียด ๆ ของคุณ ภูผา ที่นาน ๆ จะได้ยินเขาทำเสียงเคร่งขรึมเช่นนั้น
          นั่นคงแปลได้ว่า .. เจ้าของเสียงคงเครียด หรือเคืองขุ่น อยู่มาก ซึ่งนั่น..ก็ยังไม่รวมน้ำเสียงหัวฟัดหัวเหวี่ยงของนายแม่ ตะวันนั่นอีกเล่า
          สะใภ้ใหม่ที่เห็นท่าว่าไม่จะดี จึงจำเป็นต้องออกหน้ามา อธิบายสุภาพ ๆ เพราะลำพัง ขืนให้คุณซันพูดกันเอง เผลอ ๆ เรื่องราวขุ่นเคืองก็อาจจะยิ่งบานปลายไปอีก เพราะนายน้อย ท่านนี้ ใคร ๆ ก็รู้นิสัยกันดีอยู่นี่ว่ามักจะชอบแกล้ง ชอบกวน ประสาทนายแม่เล่นนักเวลาเธอไม่ค่อยพอใจอะไรลูกชาย 
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเรื่องนั้น ๆ มันดันมีเธอเข้ามา เกี่ยวข้องอยู่ด้วยแล้วล่ะก็ นายน้อยตัวร้ายก็จะไม่ลังเลที่ยิ่งยั่ว โมโหมารดาหนักกันเข้าไปใหญ่เลยเชียว
          ร้อยยิ้ม ที่ยิ้มจนแก้มบุ๋มเพราะลักยิ้มที่มีอยู่ทั้งสองข้าง กับตายิบหยีทำให้ร้อยตะวันเกือบจะลืมอารมณ์โกรธที่ลูกชาย ก่อไว้ก่อนหน้าเสียแทบจะสนิท เพราะถึงอย่างไรก็เอ็นดูกันมา ตั้งแต่ยังเล็กยังน้อย แถมมองอย่างไร ..ฟองดาวก็ไม่เคยนอกลู่ นอกทางให้ผิดหวัง .. แม้ขนาดที่ร้อยตะวันไม่ได้เกี่ยวพันอะไร ใด ๆ ทางสายเลือดแม้เพียงสักนิด เธอก็ยังอดรู้สึกภูมิใจและ ชื่นใจในความเป็นเด็กที่กตัญญู มีมานะอดทนและใฝ่ดี แทน ผู้เป็นพ่อแม่ที่ล่วงลับไปแล้วของเด็กสาวคนนี้ไม่ได้เลย
          "อย่าไปคิดว่าไร่ภูผาเป็นหนี้บุญคุณใครเลยจ้ะหนูฟร็อง ..มันจะทำให้พวกเราบางคนเหลิงรู้ไหม? (แขวะไปยังลูกชาย ตัวดี) เพราะอันที่จริงพวกเราที่นี่ .. ก็อยู่ร่วมกันด้วยการพึ่งพา อาศัยซึ่งกันและกันอยู่ต่างหาก ไร่นี้ รีสอร์ทนี้ รวมถึงบริษัทฯ ในเครืออื่น ๆ ด้วย .. ที่พวกเราก่อตั้งมาเป็นองค์กรใหญ่โตได้ ทุกวันนี้ก็เพราะมีคนงาน เหล่าพนักงาน ผู้จัดการ ผู้บริหาร นายทุน หุ้นส่วน ที่มาร่วมด้วยช่วยกันทำหน้าที่ของแต่ละคน และของแต่ละฝ่ายต่างหาก เพราะหากขาดฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไป ..เราก็จะไม่มีวัน ๆ นี้กันหรอก เพราะฉะนั้น อย่าได้คิดถือเป็น บุญเป็นคุณกันเลยจ้ะ เราอยู่กันอย่างญาติพี่น้อง อย่างเพื่อน ร่วมโลกกันดีกว่าเน๊อะ" 
          แตะมือเด็กสาวอ่อนวัยให้รู้ถึงความจริงใจ
          "และถึงแม้ว่าแม่จะไม่ค่อยพอใจ ..ที่คุณซันกับหนูฟร็อง จะตัดสินใจแอบไปงุบงิบจดทะเบียนกันเงียบ ๆ แต่ก็ช่างเถอะ แม่ไม่อยากบังคับใจอะไรมาก แต่แค่นี้ก็ทำให้เห็นแล้วว่า .. แม่ เลือกลูกสะใภ้ได้ไม่ผิดหวังหรอกค่ะ เห็นไหมคะคุณซัน? ที่ยัง ไม่ทันไร..ก็รีบออกมาอธิบาย ปกป้องสามีตัวร้ายกันแล้วนะนี่"
          โดนร้อยตะวันหยอกเย้าเอาบ้าง ถึงกับทำเอาสาวน้อย สะใภ้ใหม่อายจนหน้าแดงก่ำ .. 
          แม่สามีที่เห่อลูกสะใภ้จึงนึกเอ็นดูยิ่งเข้าไปใหญ่
          นายอาทิตย์ตัวร้ายก็ยังทำท่าเฉยเมย แต่แอบ..อดลอบ ปรายหางตาไปยังภรรยาหมาด ๆ แว่บหนึ่งไม่ได้อยู่ดี
          "ปกป้อง กับ ขี้ประจบ .. มันก็มีแค่เส้นบาง ๆ ขวางอยู่ เท่านั้นนะคะคุณแม่"
          "เอ๊ะ!! คุณซันคะ! ทำไมจึงชอบขว้างดราม่า..ปาพล๊อต ขี้อิจฉาใส่น้องทุกทีเลยคะ?" 
          คนเป็นมารดาใช้วิชาดราม่า(ขั้นกว่า) ดุลูกชายเสียงขุ่น
          "โธ่.. โอ๋ ๆ คุณแม่คะ มาค่ะ ..เป่า เพี้ยง!!.. หายงอน หายงอน" 
          อาทิตย์เดินเข้าไปดึงร่างของมารดา .. แย่งออกมาจาก อ้อมกอดบิดาหน้าตาเฉย .. ประจบ (ของแท้) เมื่อชักจะรู้แกว ว่าคุณแม่เริ่มออกอาการดราม่า 'งอน' คงเพราะเห่อลูกสะใภ้ ใหม่ด้วย และคงประกอบกับที่เขายังแอบดื้อนิด ๆ แถมยังเบี่ยง ประเด็นไปหลายอย่างที่ไม่ตรงไปตามใจของมารดา ก็จึงเป็น เรื่องธรรมดาที่ร้อยตะวันอาจจะมีอาการไม่พอใจได้ง่าย ๆ 
          (แล้วทีหลัง อย่ามาถามนะว่า ..ได้ลูกชายขี้เหวี่ยง  ขี้วีน ขี้งอน ขี้หวงตัว และจอมดราม่ามาจากใคร ในเมื่อสำเนาถูก ต้องชัดแป๊ะซะขนาดนี้)
          "คุณซันตามใจคุณแม่จะตาย คุณแม่ให้แต่งงานคุณซัน ก็แต่ง คุณแม่จะมาว่าคุณซันขี้อิจฉา ไม่ตามใจได้อย่างไงคะ? โดนกล่าวหาโดยไม่มีหลักฐาน .. เดี๋ยวคุณซันก็ปรับเป็นหอม ฟอด ๆ" นายตัวร้าย 'รู้หลบเป็นปีก..รู้หลีกเป็นหาง'
          ว่าแล้วเจ้าตัวก็กดจมูกหอมแก้มคุณแม่คนสวยรัว ๆ
          "น้อย ๆ หน่อยครับคุณซัน นั่นคุณกำลังจีบเมียผมอยู่ ... นะครับ" ภูผาเกิดอาการหมั่นไส้นายลูกชายสุดฤทธิ์
          "โธ่ คุณพ่อก็ให้โอกาสแม่ลูกเค้าฟรุ้งฟริ้งกันบ้างสิครับ ผมถูกคุณพ่อเฉดหัวไปเรียนนอกตั้งหลายปีเพิ่งจะกลับมาบ้าน  โอกาสทำคะแนนก็เลยน้อย .. เพราะพูดจาหาเหตุผลมาประจบ เอาใจใครก็ไม่เก่งนี่ครับ" 
          แขวะเมียป้ายแดงให้ฟังกันชัด ๆ .. 
          "อีกอย่าง .. เห็นคุณแม่รักแค่คุณพ่ออยู่คนเดียว ผมกับ คุณอิงค์ก็เคย ๆ มีแอบหลบไปนินทาแบบน้อยอกน้อยใจกัน อยู่เบา ๆ บ่อย ๆ นะครับ"
          อาทิตย์หันไปแกล้งเคืองใส่ภูผา ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้ว จุด มุ่งหมายของนายตัวร้ายนั้น..ต้องการตวัดสายตาขุ่น ๆ ไปยัง คนที่นั่งเงียบที่สุด ตัวเล็กที่สุด จนดูเหมือนจะพยายามทำตัว ให้หายไปกับอากาศให้ได้นั่นต่างหาก
          ช่างทำตัวได้จืดจางจริง ๆ เลยนะคะ แม่คู้นนนนน.... 
          คนจืดจางขยับตัวแบบ 'อึดอัด' เพราะรู้ตัวแน่ล่ะว่าโดน ขวิด เอ้ย!! .. โดนแขวะ
          "นี่ไงล่ะ!! .. ตะกี้ใส่ความว่าเมียตัวเองขี้ประจบ คุณซัน นั่นแหละ .. ตัวขี้ประจบขั้นกว่าเลยนะนี่!!" 
          ร้อยตะวันตีแขนลูกชายเพี๊ยะ 
          แต่รู้เลยว่าโดนลูกอ้อนของลูกชาย มารดาก็ออกอาการ ..หมดทางจะเคือง..
          เฮ้อ! ..แล้วก็เคยแอบวิ้ง ๆ กันกับคุณภูผาสามีที่รักนะว่า 'เพราะพี่ภูตามใจลูกมากไป เห็นไหมคะ คุณซันก็เลยนิสัยเสีย' ทั้ง ๆ ที่ร้อยตะวันเองนั้นแหละน่ะ ที่บางทีเวลาเจออาทิตย์หรือ อิงจันทร์มาคลอเคลียในเวลาโกรธ ๆ เคือง ๆ เมื่อไร ... 
          จากแม่เสือจอมเหวี่ยง ก็กลายเป็น 'แม่ไก่ใจอ่อน' ขึ้นมา ทันที
          บางที ภูผาก็ยังเคยอ้อมแอ้ม..แกล้ง ๆ สะกิดภรรยา
          "ตะวันคะ เมื่อกี้จำได้ไหม ว่า..กำลังโกรธอะไรลูกอยู่?"
          "เอ๊ะ! พี่ภูอ่ะ!! จะมายุให้แม่ลูกเค้าเหวี่ยงกันทำไมคะ? .. นู้นค่ะ เชิญพี่ภูไปแซตปรับทุกข์กับนายกวินได้ที่โน้นเลยค่ะ!!" 
          "ไปสิ..ชิ่ว ๆ" พร้อมทั้งทำท่าปัดไม้ปัดมือไล่ให้ไปเล่นที่ อื่นด้วย ... ค่ะ!! ( _ _)"
          "อ้อ!.. จะแซตจีบกันก็ได้แต่..ต้องให้ตะวันเห็นข้อความ ทั้งหมดด้วยค่ะ แล้วอย่าให้รู้นะ ว่าไปแอบมุ้งมิ้งคุยฟรุ้งฟริ้งกัน สองต่อสอง แอบนินทาภรรยากันน่ะ เพราะต่อให้กวินแต่งงาน มีภรรยามีลูกโตเป็นสาวแล้วก็ตาม แต่ตะวันก็ยังจะหึงส์ตลอด เวย์เลย .. รู้เรื่องนี้ดีอยู่แก่ใจใช่ไหมคะ!!" 
          มีการปรายตา .. แกล้งขว้างค้อนชุบน้ำผึ้งมาให้ด้วยนะ
          "อืมมมม..จิ้น 'ยาโอย' ใส่พี่กับกวินไม่เลิกแบบนี้.. แล้ว พอถึงคืนนี้ 'อย่าโอ้ย' ใส่พี่นะคะ .. คุณหนูตะวัน!" 
          สามีพูดมา .. สีหน้าเฉย ๆ .. แต่คนฟังหน้าแดงหูแดงก่ำ
          หาเรื่องเข้าตัวอีกจนได้เลยแท้ ๆ นะคะ!! 
          นั้นแหละ!! ผู้ภรรยาจึงจะรีบ..วกกลับเข้าประเด็นเก่าเอา ตัวรอดกันต่อไป
          "แล้ว.. คุณซันก็อย่าคิดว่า แอบอุ๊บอิ๊บไปจดทะเบียนกัน แค่เงียบ ๆ แล้วแม่จะพอใจรีบยกโทษให้ เพราะถึงอย่างไร แม่ ก็ไม่ไว้ใจคุณซัน ที่ชอบเล่นแร่แปรธาตุกับแม่ตลอดเวลาอย่าง นี้นะ" บ่นใส่ลูกชายพอเป็นพิธี
          "แต่งกันแล้ว ต่อไปก็ไปเริ่มเรียนรู้การอยู่เป็นครอบครัว ต้องหัดช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณซัน ที่จะต้องเป็นหัวหน้าครอบครัวและบริษัทฯเราต่อไปใน อนาคต เพราะงั้น .. ลูกทั้งสองจึงต้องมาเรียนรู้เรื่องบริหารงาน ในเครือโรงแรมกับรีสอร์ทให้ได้ด้วย เพราะต่อไป พ่อ แม่ และ คุณตาก็จะเริ่มขยายสาขา .. เพิ่มไปยังจังหวัดอื่น ๆ อีก .. ไหน จะยังโรงงานผลิตไวน์อีก ที่อันนี้คุณซันก็ต้องเรียนรู้ไว้ เพราะ พอน้อง 'ต้นฝัน' ลูกสาวสุดรักของคุณอากวินที่ก็จะกลับมา จากฝรั่งเศสไล่ ๆ กับคุณอิงค์ คุณซันกับหนูฟร็องจะได้ช่วย แม่กับคุณอาเจนสอนสองคนนั้นด้วยกัน"
นิยายแต่งจบแล้วค่ะ โหลด eBook ได้เลยนะคะ

คลิกไปอ่านนิยายทุกตอนได้ตรงนี้

คลิกไปอ่านนิยายทุกตอนได้ตรงนี้

ต้องการอ่านนิยายเล่มนี้เต็มเนื้อเรื่อง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

📒 สายลมแห่งรักพัดมา : บทที่ 6 (2) Last Sample

ขอวางเนื้อหาเป็นตอนสุดท้ายแล้วค่ะ  พบกับเรื่องราวเต็มๆ ได้ที่ eBook แต่งจบแล้วนะ โหลดเลย!! บทที่ 6 (2)           "โธ่!! .....